วิชาอาคมทางไสยศาสตร์ เช่น บทกันผี มนต์ไล่ผี มันไม่มี ความหมายอะไรสำหรับภูตผีปีศาจ
เช่นอย่างภูตผีปีศาจที่มันเข้ามาสิงคน พวกเป็นผีเข้ามาสิงคนนี่มันเรียนมนต์ไสยศาสตร์จบมาแล้ว
มนต์ไล่ผี มนต์ขับผี มันไม่กลัว มนต์ป้องกันมันก็ไม่กลัว มันกลัวแต่ คนผู้ทำความดี
บทสวดมนต์ พุทธคุณ ธัมมคุณ สังฆคุณ เมตตา พรหมวิหาร เป็นจุดยืนของการทำความดี
เราสวดไปแล้วผีมันไม่กลัว แต่พอได้ยินคำว่า สัพเพ สัตตา สุขิตา โหนตุ พอมันได้ยิน
มันก็นึกว่า อ้อ.. ท่านผู้นี้มาดี ไม่ได้มาร้าย เราไม่ควรเบียดเบียนท่านผู้นี้ แล้วมันก็ไม่เบียดเบียนเรา
ตัวอย่างที่เคยมีประสบการณ์มา บางทีมีผีเข้าสิงคน เขาเอามาให้หลวงพ่อไล่ พอมาถึงก็
“หลวงพ่อ ไล่ผีให้หน่อย”
“เอ้า! เกิดมาไม่เคยเห็นผีสักที จะให้ไปไล่มันอย่างไร”
เขาบอกว่า “มันเข้าสิงคนน่ะ”
“อ้าวถ้ามันเข้าสิงคน ไปหาหลวงตาอยู่หลังวัดไป”
เขาก็พาไปหาหลวงตาองค์นั้น พอไปถึง หลวงตาก็เริ่มต้น สวดคาถาขับไล่ผี พอขึ้นต้น
มันสวดจบไปก่อนหมดทุกบท จนกระทั่ง หลวงตาไม่มีมนต์ที่จะท่องแข่งกับมัน มันก็เลยชี้หน้าด่าเอา
“หมดภูมิแล้วหรือ มีอะไรจะมาท่องแข่งกันอีก”
ลงผลสุดท้ายมันก็ด่าเอา
“บวชเป็นพระต้องเรียนธรรมวินัย ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ บวชเป็นพระแล้วมาเรียนมนต์ไสยศาสตร์นี่ ตายไปเป็นผีใหญ่นะ” มันว่า
“เช่นอย่างข้าพเจ้านี่เคยบวชเรียนเขียนอ่านมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย อาจารย์สอนให้ท่องแต่มนต์
เวลาภาวนาก็ให้ท่องแต่มนต์ จิตมันก็สงบสว่างไปได้เหมือนกัน รู้กระทั่งวันเวลาที่ตัวจะตาย
พอรู้ว่าตัวจะตาย รีบท่องมนต์เข้าสมาธิ จิตมันสว่างๆๆ ไป พอวิญญาณออกจากร่างแล้วมันมืดมิด
มองหาทางไปไม่มี มารู้ตัวเอาต่อเมื่อมาเกิดเป็นผี จึงได้มารู้ว่า อ้อ… ที่เราได้มา เกิดเป็นผีนี่
เพราะโทษที่เรียนมนต์ไสยศาสตร์ มีลูกบอกลูก มีหลานบอกหลาน
เมื่อบวชเข้ามาแล้วให้มันเรียนธรรมวินัย ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ อย่าไปเรียนเวทมนต์คาถา
ถ้าใครขืน ไปยึดมนต์คาถาเป็นสรณะที่พึ่ง ตายไปเกิดเป็นผีใหญ่หมด ที่มานี่ไม่ได้มาร้าย
จะมาขออาศัยร่างไปกราบหลวงปู่พุธ สมัยเป็นคนได้เคยขโมยของท่าน จะไปให้ท่านอโหสิกรรมให้”
ทีนี้หลังจากที่หลวงตาไล่มันไม่ออก เขาก็พามันย้อนกลับไป หาหลวงพ่อที่กุฏิ พอไปมันก็ไปนอนพังพาบอยู่ต่อหน้า หลวงพ่อก็เทศน์ให้มันฟัง
“เจ้าเป็นวิญญาณภูตผีปีศาจร้าย เข้ามาสิงกายมนุษย์ ทำให้จิตใจเขาไม่เป็นปกติ
ไม่เป็นอันทำมาหาเลี้ยงชีพ เจ้ากำลังสร้างบาป จะลงนรกนะ เจ้าเป็นผีใหญ่มันก็ทุกข์ทรมานพอแรงแล้ว
ยังอุตส่าห์จะมาสร้างบาปสร้างกรรมลงนรกอีก มันก็ยิ่งจะหนักเข้าไปอีก หรือว่าเจ้าทำผิดอะไรต่อข้า
ข้าอโหสิกรรมให้หมด ไม่ให้เจ้าเป็นบาปเป็นกรรม บุญกุศลสิ่งใดที่ข้าบำเพ็ญมาด้วยกาย วาจา จิต
ตั้งแต่เล็กจนแก่ ข้าขอประมวลมาอุทิศให้เจ้าเป็นผู้มีส่วน เจ้าจงอนุโมทนาบุญกับข้า แล้วไปเกิดดีถึงสุขเสีย”
ขาดคำ ผีออกทันที พอผีออก เจ้านั่นก็ลุกปุ๊ปปั๊บเดินหนีไป เลย ไอ้เราก็อดที่จะนึกตามหลังไม่ได้ว่า
อ้อ! มิน่า มันไม่รู้จักกราบพระกราบเจ้า ดังนั้น ผีจึงได้เข้าสิงมัน
อันนี้เป็นประสบการณ์ที่ได้ประสบมา เพราะฉะนั้น ใครเอามนต์มาให้ ว่ามนต์นี้กันผีกันปอบอะไร
อย่าไปสนใจ บทอิติปิโส สวากขาโต สุปฏิปันโน พรหมวิหาร นี่แหละ เป็นคาถากันผีกันปอบได้อย่างดี
ถ้าเรายึดมั่นในบทสวดมนต์นี้อย่างแน่วแน่ เวลามีผีเข้าสิงคน เราไปเทศน์ให้มันฟังอย่างที่หลวงพ่อเทศน์ให้ผีมันฟัง
แล้วมันก็จะออก แต่ว่าอย่าลืมให้ส่วนบุญส่วนกุศลเขา
ฐานิยปูชา ๒๕๕๒ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
www.palungdham.com